รักษาหลุมสิวลึก ด้วยเลเซอร์เทคโนโลยี Erbium YAG MCL 31
เราสามารถแบ่งหลุมสิวออกเป็น 3 ประเภท
1. ระดับรุนแรงที่สุด (Ice Pick Scar) หลุมสิวลักษณะนี้ จะมีลักษณะเป็นหลุมลึก และมีปากหลุมแคบ โดยมักจะมีความกว้างไม่เกิน 2 มิลลิเมตร ด้วยความที่เป็นหลุมลึก เนื้อเยื่อใต้ผิวถูกทำลายมาก จึงทำให้การรักษาหลุมสิวให้หายเป็นไปได้ยาก รวมถึงต้องใช้ระยะเวลานานกว่าจะฟื้นฟูให้รอยลึกดูตื้นขึ้น
2. ระดับรุนแรงปานกลาง (Box Scar) ลักษณะของหลุมสิวที่มีความรุนแรงปานกลาง มักจะมีลักษณะเป็นบ่อ มีขอบเขตชัดเจน มักจะมีความกว้างมากกว่า 1 มิลลิเมตร ไปจนถึงกว้าง 4 มิลลิเมตร โดยที่ความกว้างที่ขอบหลุมและก้นหลุมจะมีขนาดเท่ากัน ส่วนความลึกของหลุม อาจลึกได้ตั้งแต่ 0.1-0.5 มิลลิเมตร ซึ่งยังลึกไม่ถึงชั้นรูขุมขน ทำให้การใช้ยาทาภายนอกร่วมกับการรักษาหลุมสิวด้วยทรีตเมนต์ ก็เพียงพอที่จะทำให้รอยหลุมสิวหายได้ แต่ก็อาจจะทิ้งรอยด่างดำเหลือไว้บ้าง
3. ระดับรุนแรงน้อย (Rolling Scar) ลักษณะหลุมสิวแบบ Rolling Scar มักจะเป็นหลุมสิวที่มีแอ่งเว้า มีปากหลุมกว้าง อาจกว้างได้มากกว่า 4-5 มิลลิเมตร โดยร่องหลุมจะกินพื้นที่แค่ชั้นผิวตื้น ๆ มักจะเกิดขึ้นจากการบีบสิวที่อยู่ในระดับไม่ลึก ทำให้รักษาได้ง่าย ซึ่งยาทาภายนอกที่มีคุณสมบัติในการเติมเต็มเนื้อผิว ก็สามารถรักษาหลุมสิวลักษณะนี้ได้แล้ว
การรักษาหลุมสิว จะถูกแบ่งออกเป็น 3 แบบใหญ่ ๆ คือ
1. การรักษาด้วยการทายา เหมาะสำหรับรักษารอยหลุมตื้น ๆ ซึ่งมักจะเป็นรอยหลุมระดับทั่วไป (Rolling Scar) ยาที่นำมาใช้ทำให้ผิวตื้นขึ้นก็จะมีหลายชนิดด้วยกัน เช่นกรดวิตามินเอ, เรติu เอ, TCA , AHA, BHA, PHA เป็นต้น ข้อดีของการใช้ chemical peeling คือสามารถช่วยลดรอยแดง รอยดำได้ ส่วนข้อเสียคือถ้าใช้ความเข้มข้นสูงอาจเกิดการระคายเคือง แสบ แดง คัน หรือด่างขาวได้
2. การรักษาด้วยการรับประทานยา (เป็นยาที่สกัดจากอนุพันธ์ของวิตามินเอ หรือ RETINOIDS)
3. การรักษาด้วยเครื่องมือแพทย์ (เป็นการรักษาที่เหมาะกับผู้ที่มีหลุมสิวขนาดใหญ่มาก จนยาทาและยากินก็ช่วยไม่ไหว หรือแบบ Ice Pick Scar และ Box Scar ซึ่งเป็นการรักษาภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ร่วมกับการทายาและครีมบำรุงร่วมด้วย
The gold standard for skin rejuvenation.
แก้ปัญหาทุกหลุมสิวด้วย Erbium:YAG Laser คือเลเซอร์รักษาหลุมสิวที่ใช้พลังงานงานแสงความเข้มสูงที่คลื่นความยาว 2,940 nm ซึ่งเป็นช่วงที่มีความจำเพาะเป็นพิเศษกับน้ำในชั้นผิว ทำให้สามารถผลัดเปลี่ยนเซลล์ใหม่ (Resurfacing) ที่ผิวชั้นบนโดยไม่เกิดอันตรายกับเนื้อเยื่อส่วนอื่นได้ในทุกสีผิว ด้วย MicroSpot Handpiece ที่มาพร้อมเทคโนโลยีไมโครเลนส์ชนิดพิเศษที่ทำให้เกิดลำแสงเลเซอร์เลเซอร์ขนาดเล็กถึง 169 MicroSpots ในการยิงเลเซอร์แต่ละครั้ง และยังสามารถตั้งค่าและควบคุมการรักษาได้อย่างแม่นยำ นอกจากนั้นยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลาlจน อีลาสตินในผิวชั้นลึก เป็นการแก้ปัญหาเรื่องหลุมสิวพร้อมทำให้ผิวในบริเวณที่ทำการรักษานั้นเรียบเนียนยิ่งขึ้น
The MCL31 Dermablate is The gold standard
in highly precise ablation and fractional technology.
การรักษา
ใช้เวลารักษา 15 20 นาที เพื่อประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้นของการรักษา ควรทำการรักษาอย่างต่อเนื่องติดต่อกันนาน 3-5 ครั้ง ในทุกๆ 1 เดือน ซึ่งจะสามารถเห็นผลได้ตั้งแต่การรักษาครั้งแรก ขนาดหลุมสิวจะมีขนาดเล็กลง ผิวจะเรียบเนียนเต่งตึงขึ้น ร่องรอยเล็กๆบนใบหน้าจะลดเลือนและจางหายไป ผิวของคุณแลดูอ่อนเยาว์ และกระชับมากขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติเผยผิวเรียบเนี่ยนได้โดยไม่ต้องปกปิดอีกต่อไป
การดูแลหลังการทำการรักษา
หลังทำการรักษาให้หลีกเลี่ยงไม่ให้แผลโดนน้ำในช่วง 24 ชม.แรก หลังจากนั้นสามารถทาบำรุงด้วยครีมที่ให้ความชุ่มชื้นแก่ชั้นผิวอย่างต่อเนื่องจนกว่าสะเก็ดแผลจะหลุด (5-7 วัน) หลีกเลี่ยงแสงแดดจัดในช่วง 2 สัปดาห์แรก หลังสะเก็ดหลุดผิวหน้าและรอยหลุมสิวจะค่อยๆดีขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงระยะเวลา 30-45 วัน