ฟิลเลอร์ ( Filler )
Filler คือสารเติมเต็ม Hyaluronic Acid เป็นสารที่ช่วยในเรื่องของการเติมเต็มใบหน้าในบริเวณที่มีการสูญเสีย Volume ได้แก่ ร่องแก้ม โหนกแก้ม ขมับ หน้าผาก คาง และใต้ตา เนื่องจากเมื่อมีอายุมากขึ้นปัญหาเหล่านี้ก็เกิดตามมาดังนั้นการใช้สารฟิลเลอร์ในการฉีดเพื่อเติมเต็มและปรับเปลี่ยนรูปหน้าจึงเป็นการรักษาที่เห็นผลทันทีภายหลังการรักษา
ฟิลเลอร์ที่ควรใช้คือ hyaluronic acid เท่านั้นเพราะนอกจากเรื่องได้รับอนุญาตจากFDA ทั้ง USFDA KFDA และ ThaiFDA ให้เป็นสารเติมเต็มแล้วยังสามารถสลายได้เองหมดไม่ทิ้งสารตกค้าง และถ้าไม่ชอบหรือมีปัญหาก็สามารถฉีดยาเพื่อสลายออกได้
ชลิตาคลินิกเราใส่ใจในคุณภาพของฟิลเลอร์ จึงเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุด ปลอดภัย ที่สำคัญผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยา อีกทั้งคุณหมอมะเหมี่ยวและคุณหมอสันเป็นผู้เชียวชาญในการปรับรูปหน้าด้วยฟิลเลอร์
ชลิตาคลินิกเลือกใช้ฟิลเลอร์ 2ยี่ห้อได้แก่ ยี่ห้อ Juvederm และยี่ห้อ Neuramis
Juvederm
เป็น Hyaluronic Acid Filler แบรนด์จากประเทศอเมริกา เป็นแบรนด์ที่ผ่านการรับรองทั้ง USFDA และ ThaiFDA เป็นแบรนด์ Filler อันดับหนึ่งของโลก ฟิลเลอร์ Juvederm เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยม ด้วยมาตรฐานที่มีคุณภาพสูง ออกแบบผลิตภัณฑ์ให้มีส่วนผสมของ LIDOCAINE ที่เป็นยาชาช่วยลดความเจ็บขณะฉีด และยังได้พัฒนาเทคโนโลยี Vycross และ hylacross ทำให้สารเติมเต็ม สามารถยกกระชับได้ดี ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ ซึ่งชลิตาคลินิกได้นำเข้ามาทั้งหมด 4 รุ่น
Vycross Tecnology ที่ทำให้สารเติมเต็ม ลิขสิทธิ์เฉพาะของ Allergan สามารถยกกระชับได้ดี มีโมเลกุลยึดเกาะที่เหนี่ยวแน่นขึ้น อัตราการบวมน้ำน้อยมากเมื่อเทียบกับ HA ตัวอื่นๆ และที่สำคัญยังทำให้ผลลัพธ์หลังฉีด เรียบเนียน ออกมาดูเป็นธรรมชาติและอยู่ได้นานสูงสุดถึง 24 เดือน ซึ่ง Juvederm กลุ่ม Vycross ชลิตาคลินิกใช้ทั้งหมด 3 รุ่น ดังนี้ ได้แก่รุ่น Voluma, Volbella และ Volite
1.Juvederm Voluma
ปริมาณของ Hyaluronic Acid (HA) : 20 มิลลิกรัม / 1 หลอด
เทคโนโลยี : Vycross
จุดเด่นของรุ่น VOLUMA
– เนื้อเจลมีความแน่น คงตัว เรียบเนียน ไม่ไหล
– ยกกระชับใบหน้าได้ดีที่สุดและนานที่สุดในฟิลเลอร์ทั้งหมด
– ปั้นง่าย ทำให้ปรับรูปหน้าได้สวย ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ
– เหมาะกับคนที่มีริ้วรอยบนใบหน้าเยอะๆ และต้องการปรับรูปหน้า
– อยู่ได้นานถึง 2 ปี
– ไม่บวม ไม่ช้ำ และเห็นผลทันทีหลังฉีด
2.Juvederm Volbella
ปริมาณของ Hyaluronic Acid (HA) : 15 มิลลิกรัม / 1 หลอด
เทคโนโลยี : Vycross
จุดเด่นของรุ่น VOLBELLA
– เนื้อเจลนิ่ม ให้ความเรียบเนียน ดูเป็นธรรมชาติ
– เหมาะสำหรับการฉีดบริเวณผิวหนังบางๆ เช่น ใต้ตา หรือริ้วรอยบางๆ
– ไม่เกิดปรากฏการณ์ที่แสงตกกระทบฟิลเลอร์ใต้ผิวหนัง และทำให้เกิดเป็นสีผิวสีเทา
– อยู่ได้นานถึง 18เดือน (1 ปี ครึ่ง)
– ไม่บวม ไม่ช้ำ และเห็นผลทันทีหลังฉีด
3.Juvederm Volite
ปริมาณของ Hyaluronic Acid (HA) : 12 มิลลิกรัม / 1 หลอด
เทคโนโลยี : Vycross
จุดเด่นของรุ่น VOLITE
– เนื้อเจลนิ่มที่สุด ให้ความเรียบเนียน แม้ฉีดตื้น
-เหมาะสำหรับปรับคุณภาพผิว มีความชุ่มชื่น อิ่มฟู ฉ่ำวาว ยื่ดหยุ่น (Skin quality)
– เหมาะสำหรับการฉีดบริเวณผิวหนังบางๆ เช่น ใต้ตา ริ้วรอยบางๆ
– ไม่เกิดปรากฏการณ์ที่แสงตกกระทบฟิลเลอร์ใต้ผิวหนัง และทำให้เกิดเป็นสีผิวสีเทา
– อยู่ได้นานถึง 9 เดือน
– ไม่บวม ไม่ช้ำ และเห็นผลทันทีหลังฉีด
Hylacross Tecnology มีคุณสมบัติค่าความอุ้มน้ำได้มาก ฉีดแล้วฟู เหมาะกับคนไข้ที่ต้องการประหยัด คือฉีด 1 cc จะสามารถฟูได้ถึง 1.5 cc และตัว HA มีความยืนหยุ่นสูง ทนต่อการขยับ เหมาะกับการฉีดเพื่อเติมเนื้อในบริเวณที่ผิวมีการขยับบ่อยๆ เช่น ร่องแก้ม มุมปาก แก้มตอบ แต่การยึดเกาะไม่ดีเท่า Vycross ทำให้ผลลัพธ์ในการยกกระชับน้อยกว่า Vycross
กลุ่ม Hylacross ชลิตาคลินิกใช้ทั้งหมด 1 รุ่น ดังนี้ ได้แก่รุ่น Ultraplus XC
Juvederm Ultraplus xc
ปริมาณของ Hyaluronic Acid (HA) : 24 มิลลิกรัม / 1 หลอด
เทคโนโลยี : Hylacross
จุดเด่นของรุ่น ULTRA PLUS XC
– เนื้อเจลมีความแน่น คงตัว เรียบเนียน ไม่ไหล
– เหมาะสำหรับการปรับรูปหน้า ให้สวย และดูเป็นธรรมชาติ
– อยู่ได้นานถึง 12 เดือน
– ใช้ฉีดในบริเวณที่ต้องการความฟูมากๆ หรือบริเวณที่หายไปค่อนข้างเยอะ เช่น ขมับ ร่องแก้ม
Neuramis
อีกยี่ห้อที่ชลิตาคลินิกเลือกใช้ เป็นเทคโนโลยี hylacross ของฟิลเลอร์ค่ายประเทศเกาหลีผ่านการรับรองทั้ง KFDA และ ThaiFDA ซึ่งให้ผลลัพธ์ดีอีกตัวในการรักษา แต่การคงทนของฟิลเลอร์น้อยกว่าทำให้ สลายเร็วกว่ายี่ห้อ Juvederm รุ่นที่เลือกใช้คือ Neuramis deep
Neuramis deep
ปริมาณของ Hyaluronic Acid (HA) : 20 มิลลิกรัม / 1 หลอด
เทคโนโลยี : Hylacross
จุดเด่นของรุ่น NEURAMIS DEEP
– เนื้อเจลมีความแน่น คงตัว เรียบเนียน ไม่ไหล
– เหมาะสำหรับการปรับรูปหน้า ให้สวย และดูเป็นธรรมชาติ
– อยู่ได้นานถึง 9 เดือน
– ใช้ฉีดในบริเวณที่ต้องการความฟู หรือบริเวณที่หายไปค่อนข้างเยอะ เช่น ขมับ ร่องแก้ม
ทั้งนี้การรักษาในตำแหน่งต่างๆด้วยฟิลเลอร์จะให้ผลลัพธ์ที่ดีนั้น ขึ้นอยู่กับแพทย์ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญ และการเลืกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ได้คุณภาพและเลือกให้เหมาะสมกับตำแหน่งที่จะรักษา
เขียนโดย : นายแพทย์พิสัณห์ สุขประเสริฐ
และแพทย์หญิงชลิตา สิรเมธี
